Credit
วินโดวส์ 10 (Windows 10) ไม่ได้อัพเกรดฟรีจริงๆ (แม้จะดูเหมือนฟรี) เพราะคุณต้องแลกความฟรี กับข้อมูลส่วนตัว
เมื่อ 4 กันยายนที่ผ่านมา Microsoft ได้เปิดให้ผู้ใช้บริการ upgrade windows 10 ฟรี และหลังจากนั้น 2 วัน ก็มีคอมพิวเตอร์ถึง 67 ล้านเครื่องที่ได้รับการติดตั้ง windows 10 เข้าไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า อาจเป็นเพราะคนไม่ค่อยชอบรูปแบบ windows 8 ก็เป็นได้ เช่น ปุ่ม start เปลี่ยนโฉมใหม่ ทำให้การหาโปรแกรมต่างๆนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก หลายคนเชื่อว่าแท้จริงแล้ว การเปิดให้อัพเกรด windows 10 ฟรี นั้นซ่อนโมเดลทางการตลาดไว้ที่เรียกว่า “Freemium” ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงในรูปแบบอื่น
หากลองวิเคราะห์การตลาดคอมพิวเตอร์จากค่ายยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Apple และ Microsoft จะสังเกตได้ว่ารูปแบบของ Apple จะอนุญาตให้ผู้ใช้อัพเกรด software – ระบบปฏิบัติการ iOS ต่างๆ ได้ฟรี แต่จะไปเพิ่มราคาใส่ส่วนฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่แสนแพงแทน และในทางกลับกัน Microsoft มีจุดขายอยู่ที่ซอฟแวร์เป็นส่วนใหญ่ๆ และภายหลังเริ่มมีการขายฮาร์ดแวร์เป็นของตัวเอง เช่น Surface รุ่นต่างๆ จะเห็นได้ว่า Microsoft เริ่มมีการปรับตัวมากขึ้น
และการปรับตัวครั้งต่อมาของ Microsoft ก็คือ ได้เปิดบริการ app store โดยมีแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้ดาวน์โหลดทั้งฟรีและไม่ฟรี ขณะเดียวกัน Microsoft ก็จะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในขณะที่ผู้ใช้ใช้เน็ต หรือใช้บริการท่องเว็บผ่าน Browser ต่างๆ แม้แต่เล่นเกมส์จาก app store โดยเกมนั้นถือว่าเป็นซอฟแวร์ที่ดึงดูดการใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น Microsoft Solitaire ภายนอกอาจจะดูเหมือนใช้งานฟรี แต่หากสังเกตดีๆจะมีโฆษณาวิดีโอแฝงอยู่ด้วย (หันมาหากินกับค่าโฆษณาแทน) แถมโฆษณาที่ปรากฏมีความเกี่ยวข้องกับ ความชอบ ความสนใจของเรา – ซึ่งทราบจากข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่น ข้อความเสิร์ทในเอ็นจินส์ เพศของบัญชีผู้ใช้ อายุ เป็นต้น แต่ถ้าหากผู้ใช้แอฟไม่ต้องการแสดงโฆษณาใดๆ ก็ต้องเสียค่าบริการเป็นรายปีประมาณ $9.99 ดอลลาร์สหรัฐ
แปลโดย thaiphysicsteacher.com
Read Full The Article On The Conversation : Windows 10 is not really free: you are paying for it with your privacy
Reference and Media : David Glance, University of Western Australia