เมื่อวานคุณ Froze Rift ลูกเพจท่านหนึ่งส่งบทความเกี่ยวกับแนวคิด “โลกคู่ขนาน” มาให้ผมลองอ่านดู น่าสนใจมากครับ
โดยเป็นบทสัมภาษณ์ระหว่าง Joe Rogan นักพูด นักตลกชื่อดัง และ Youtuber เจ้าของช่อง PowerfulJRE (เคยสัมภาษณ์คนดัง ๆ มาแล้วเช่น Elon Musk)
กับศาสตราจารย์ Sean Carrol นักจักรวาลวิทยาและนักฟิสิกส์ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานมืด (Dark Energy) และทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Relativity) จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (CalTech)
ซึ่งถือว่ารายการค่อนข้างแปลกดีดำเนินโดย comedian แต่สัมภาษณ์นักฟิสิกส์ ใครสนใจอยากฟังเองติดตามได้จากลิงก์นี้ครับ
โดยคลิปดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีคนรับชมกว่า 1.8 ล้านคน เนื้อหาน่าสนใจมากครับ แต่ถ้าอยากอ่าน นี่คือสิ่งที่ผมสรุปได้ มาเริ่มกันเลย (อาจแทรกความคิดเห็น ขยายความเพิ่มบ้างเพื่อให้เข้าใจง่าย)
1. อนุภาคขนาดเล็กไม่อยู่ ณ ตำแหน่งเดียวในเอกภพ
ตามปกติวัตถุทางกายภาพจะอยู่ตำแหน่งเดิมเสมอ ยกเว้นมีความเร็วก็จะมีการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ยังคงอยู่ภายในเอกภพเดิมนี่แหละ นี่คือสามัญสำนึกที่หลายคนรับรู้ได้
แต่ Sean Carrol กล่าวว่า
“ในโลกควอนตัม สูญญากาศที่ว่างเปล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยอนุภาคขนาดเล็กมากมายที่ผลุดเข้ามา แล้วก็หายไป”
ทำเอาผมนึกถึงฉาก Antman ย่อตัวเล็กลงระดับควอนตัมแสงระยิบระยับเต็มไปหมด
หรือกล่าวได้ว่าโดยอนุภาคเหล่านั้นได้เข้ามายังอีกเอกภพหนึ่ง และย้ายตัวเองไปอยู่อีกเอกภพหนึ่ง เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง Series เกี่ยวกับ Multiverse ที่เคยเขียนไว้เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย
ซึ่งบทความ Multiverse ก็พูดถึงการหายไปของอนุภาคเช่นเดียวกันครับ ลองอ่านดูได้ “ความลับของเวลา ตอนที่ 3 Multiverse” : https://www.thaiphysicsteacher.com/secret-of-time-multiverse/ “
Sean Carrol ได้กล่าวดักคอไว้ก่อนว่า
“ใช่ว่าสิ่งที่คุณจินตนาการได้ทุกวันนี้ต้องเป็นจริงเสมอไป” (หรือบอกเป็นนัยว่าโลกควอนตัมอาจฟังดูเหนือโลกเช่นกัน แต่อาจเป็นจริงหรือไม่ก็ได้นะ)
2. ทฤษฎีบทของเบลล์ (Bell’s Theorem)
ในปี ค.ศ. 1964 John Stewart Bell นักฟิสิกส์ชาวไอร์แลนด์ได้ตีพิมพ์ผลงาน “On Einstein-Podolsky-Rosen Paradox” โดยทฤษฎีของเบลล์ได้วางรากฐานการอธิบายโลกควอนตัมไว้ ในขณะที่แนวคิดของสามนักฟิสิกส์ Einstein-Podolsky-Rosen พูดถึงเกี่ยวกับการเชื่อมกันระหว่างของหลุมดำสองแห่ง (ก่อให้เกิด Wormhole)
ทำให้อนุภาคสองบริเวณ หรือสองโลกคู่ขนานมีความเกี่ยวพันทางควอนตัม (Quantum Entanglement) ทฤษฎี EPR paradox มุ่งหวังอธิบายโลกควอนตัมให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง (ไม่เหนือโลกจนเกินไป)
Sean Carrol ให้สัมภาษณ์ว่า “ปัจจุบันมีสมการ กฎทางฟิสิกส์ และรูปแบบแนวคิดที่พอฟังได้อยู่ โดยหนึ่งในนั้นเป็นตัวเต็งที่สามารถอธิบายได้ว่าโลกคู่ขนานอาจมีอยู่จริง”
3. เอกภพไม่ได้เริ่มต้นด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ (Big Bang)
ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเอกภพและเวลา ก่อเกิดและดำเนินจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ แต่สำหรับ Carrol เขาเชื่อว่าเอกภพและเวลาเป็นสิ่งที่เก่าแก่อย่างไม่สิ้นสุด ขยายตัวและหดตัวตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับเวลาที่วิ่งไปข้างหน้าและถอยหลังได้
นักฟิสิกส์หลายคนยึดติดอยู่กับความพยายามในการอธิบายเหตุและผลของการเกิด Big Bang และเวลา แทนที่จะลองก้าวถอยออกมาเล็กน้อยแล้วตั้งคำถามใหม่ว่าจริง ๆ แล้วเอกภพและเวลามีกระบวนการอย่างไร
หนึ่งในหลักที่จะช่วยให้เราจัดการกับข้อสงสัยนั้นได้ Carrol เชื่อว่านั่นก็คือ การศึกษาโลกควอนตัม
หรืออาจกล่าวได้ว่าความเป็นไปของเอกภพและเวลาเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด อย่าริได้ลองอธิบาย ให้ลองมาอธิบายโลกควอนตัมก่อน เพราะเรามีทฤษฎีที่นักฟิสิกส์บางท่านได้ปูทางไว้แล้ว เริ่มจากทรัพยากรความรู้ที่มีอยู่ก่อนครับ
4. โลกควอนตัมแบบจับต้องได้
ในปี ค.ศ. 2011 นักฟิสิกส์ Brian Greene ได้เขียนหนังสือชื่อว่า Hidden Reality : Parallel Universes and the Deep Laws of the Cosmos
โดยหนึ่งในข้อความที่ Geene ได้ให้สัมภาษณ์กับ npr.org ก็คือ
“หากต้องการศึกษาโลกควอนตัม โดยเฉพาะเรื่องเอกภพคู่ขนาน นอกจากจะต้องมีภูมิรู้ในด้านคณิตศาสตร์ขั้นสูงแล้ว คุณต้องสู้กับแนวคิดอันมากมาย ซึ่งบางทีคุณก็เชื่อว่าแนวคิดนี้ถูก บางทีก็เชื่อว่าแนวคิดนี้ถูกด้วย หรือที่คิดมาผิดหมดเลยก็มี”
“แต่ขอแค่มีแนวคิดเดียวที่อธิบายในโลกควอนตัมนี้ได้ มันจะทำให้เรื่องวุ่นวายเหล่านี้จบลง แล้วเราจะสามารถทำความเข้าใจมันได้”
กลับมาที่ Carroll เขากล่าวว่า
“ณ ตอนนี้การพัฒนาแนวคิดในโลกควอนตัมกำลังเป็นไปด้วยดี สำหรับคนทั่วไปจะเห็นเรื่องเหล่านี้ได้ชัดก็ต่อเมื่อเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ก้าวหน้าไปอีกขั้น”
5. การทดลองหาโลกคู่ขนาน
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 นักวิจัยจาก Oak Ridge National Laboratory ในรัฐเทนเนสซีได้พยายามทดลองพิสูจน์การมีอยู่ของโลกคู่ขนาน
โดยการส่งลำอนุภาคนิวตรอนเย็นยิ่งยวดพุ่งชนกำแพงที่ไม่สามารถผ่านได้ ตามทฤษฎีคือ อนุภาคนิวตรอนต้องสะท้อนกลับมาแทบทันที แต่พอจับเวลาปรากฏว่ามีดีเลย์เล็กน้อย จึงเชื่อได้ว่านิวตรอนได้หายตัวไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกลับมาให้ตรวจจับได้อีกครั้ง
ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อไปว่าจริง ๆ แล้วนิวตรอนได้สลายไปชั่วขณะและก่อตัวใหม่ในเอกภพที่เราอยู่นี้ หรือมันได้วิ่งเล่นในเอกภพคู่ขนานที่อื่นก่อนจะกลับมาหาเราอีกรอบกันแน่
เรียบเรียงโดย Einstein@min
Sources:
[1] Physicist Says Parallel Universes Definitely Exist and We May Soon Explore Them. themindunleashed.com, 2020 : https://themindunleashed.com/…/physicist-says-parallel-univ…
[2] A Physicist Explains Why Parallel Universes May Exist. npr.org, 2020 : https://www.npr.org/…/a-physicist-explains-why-parallel-uni…
[3] New Search for Mirror Neutrons at HFIR. arxiv.org, 2020 : https://arxiv.org/abs/1710.00767
[4] EPR paradox. wiki, 2020 : https://en.wikipedia.org/wiki/EPR_paradox
ติดตามผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ที่
แอพ Blockdit : https://www.blockdit.com/thaiscience
Instagram : https://www.instagram.com/thaisciencenews
Twitter : https://twitter.com/Thaiphys