เลโอนาร์โด ดา วินชีมีสภาพดวงตาที่แตกต่างจากคนทั่วไปทำให้เขามีความสามารถในด้านศิลปะสูงมาก สามารถสร้างงานรูปทรง 3 มิติในงานประติมากรรมหรืองาน Painting ได้ไม่ยาก
ตามงานวิจัยของศาสตราจารย์ไทเลอร์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน พบหลักฐานจากกงานวิจัยที่เชื่อว่าจิตรกรชาวอิตาเลียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มีปัญหาทางการมองเห็นหรือที่เรียกว่า Strabismus
ซึ่งเป็นอาการที่ดวงตาทั้งสองไม่ได้โฟกัสไปจุดเดียวกัน หรืออีกนัยหนึ่งตาของเจ้าของในแต่ละข้างสามารถมองจุดโฟกัสที่แยกกันได้
ศาสตราจารย์ไทเลอร์ค้นพบโดยการวัดมุมมองผ่านภาพทั้ง 6 ภาพที่มีชื่อเสียงของดาวินชีและแพงที่สุดตลอดกาล เช่น
- David (Andrea del Verrocchio)
- Young Warrior (Andrea del Verrocchio)
- Salvator Mundi (da Vinci)
- Young John the Baptist (da Vinci)
- Vitruvian Man (da Vinci)
- da Vinci self-portrait
ผลการวิจัยพบว่าดาวินชีวาดรูปโดยใช้ตาที่แตกต่างกัน ตาข้างหนึ่งใช้สำหรับสร้างมุมมองภาพ 3 มิติ (โดยดูความลึกตื้นขององค์ประกอบ) ขณะวาดรูป และตาอีกข้างหนึ่งช่วยประเมินภาพรวมจึงทำให้เขาวาดรูป 3 มิติบนแคนวาส (Canvas) ได้อย่างสมจริง และวาดง่ายขึ้น ต่างจากคนปกติที่ต้องกวาดตาทั้งสองไปไปพร้อม ๆ กันอย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากดาวินซีแล้วศาสตราจารย์ไทเลอร์เชื่อว่าจิตรกรชื่อดังระดับโลกหลายท่านก็อาจจะมีภาวะ Strabismus คล้ายกับดาวินชี เช่น Rembrandt หรือแม้กระทั่ง Picasso
งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Ophthalmology เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา