เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐเผยว่าบริษัท Apple ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในรายชื่อของบรรดาบริษัทที่มีใบอนุญาตให้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับได้
Apple มีความทะเยอทะยานในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับมาสักพักหนึ่งแล้ว อ้างจากอีเมลล์ที่โฆษกของ Apple เขียนถึงสำนักงานข่าว AFP ว่า
Apple เริ่มลงทุนอย่างหนักให้กับ Machine learning และระบบขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ
ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถือได้ว่าเป็นรัฐที่รวมกลุ่มเหล่าบริษัทหัวกะทิที่ผลิตระบบซอฟแวร์ให้กับบริษัทยานยนต์ที่ต้องการทดสอบระบบนำทางให้กับรถยนต์ของค่ายตัวเอง เนื่องด้วยด้านผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่และกลุ่มเทคโนโลยีหลายแห่งเริ่มแห่กันมาพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกันมากขึ้น มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2563 เราจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับออกมาวางขายกันอย่างกว้างขวาง
บริษัทรถยนต์รายใหญ่หันมาสนใจรถยนต์ไร้คนขับกันมากขึ้น
ด้านบริษัท General Motors ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์นี้ว่า ทางบริษัทได้ลงทุนเป็นเงิน 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการจ้างงานกว่า 1,100 ตำแหน่ง เพื่อวิจัยและพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มที่ โดยตั้งศูนย์วิจัยที่ซาน ฟรานซิสโก (San Francisco)
ในขณะที่บริษัทรถยนต์เจ้าอื่นอย่าง Ford, Nissan, Mercedes-Benz, Toyota รวมทั้ง Uber และ Google ต่างก็ดำเนินการวิจัยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเหมือนๆกัน
นอกจากบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกจะสนใจเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ทางบริษัทผลิตยางรถยนต์อย่าง Continental ก็รวมวงตั้งศูนย์วิจัย ณ ใจกลาง Silicon Valley อีกด้วย พร้อมกับประกาศนโยบายว่า “นวัตกรรมเพื่อยานพาหนะและเทคโนโลยี (Mobility innovations and technologies)”
จีนแผ่นดินใหญ่ร่วมวงด้วย
กลับมาที่ทวีปเอเชียของเรา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Baidu ก็ร่วมวงวิจัยรถยนต์ไร้คนขับกับเขาที่รัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน และพึ่งได้ประกาศซื้อกิจการ xPerception ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการซอฟแวร์กับผู้พิการทางสายตา เพราะเห็นว่าน่าจะนำไปประยุกต์ใช้ระบบนำทางกับรถยนต์ไร้คนขับได้
เราจะเห็นว่าบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่รวมถึงบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรถยนต์ไร้คนขับ ต่างก็ตื่นตัวในการพัฒนาเทคโนโลยีของตน เพื่อการแข่งขัน เตรียมพร้อมป้อนรถยนต์ไร้คนขับเข้าสู่ตลาด และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับวิ่งอยู่เต็มท้องถนนอย่างแน่นนอน
Read Original Article and More Detail & Media
“Apple gets permit to test self-driving cars.“. [Online]. via : AFP 2017.